เปิดร้านอาหารต้อง “ทดลองขาย” ก่อนเปิดขายจริงกันเจ๊ง!
หากคิดจะทำร้านอาหารสักร้านเพื่อเป้าหมาย ทำให้เป็นธุรกิจยั่งยืน
แค่คิดแล้วลงทุนทำเลยคงไม่ได้เวิร์คแน่ ๆ
เพราะร้านอาหารที่สำเร็จขยายกิจการ เพิ่มสาขาได้
แค่มีทุนอย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องทำการบ้านอย่างละเอียด
ทั้งเรื่องทำเล เรื่องกลุ่มเป้าหมาย เรื่องคอนเซ็ปต์ร้าน เรื่องงบประมาณ เรื่องเมนู เรื่องต้นทุน เรื่องพนักงาน เรื่องระบบส่วนต่าง ๆ ภายในร้าน เป็นต้น จะเห็นว่าร้านอาหารหนึ่งร้านมีรายละเอียดยิบย่อยหลายเรื่องให้ต้องวางแผน
และเมื่อผ่านด้านต่าง ๆ มาได้แล้วถึงช่วงสุดท้ายอีก 7 วันจะเปิดร้าน เป็นหนึ่งช่วงเวลาสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องเตรียมความพร้อม ซึ่งช่วง 7 วันก่อนเปิดร้านเป็นช่วงที่เจ้าของกิจการร้านอาหารหลาย ๆ ท่านตื่นเต้นที่จะได้เริ่มต้นกิจการ พอ ๆ กับความกังวลว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยผ่านไปด้วยดีหรือไม่
ซึ่งบอกได้เลยว่าหากไม่ได้เตรียมความพร้อมในการเปิดร้านแล้วล่ะก็ถึงวันเปิดร้านจริง ๆ โอกาสสูงมากที่จะต้องเจอกับสารพัดปัญหาที่ส่งผลต่ออนาคตกิจการได้เลย เช่น อุปกรณ์ไม่พร้อม พนักงานไม่เวิร์ค วัตถุดิบขาดไม่ครบ ลูกค้าไม่ได้รับบริการที่ประทับใจ เอาไปโพสต์ด่าตั้งแต่วันแรกเปิดร้าน
ดังนั้นสิ่งสำคัญสุดท้ายก่อนจะเปิดบริการต้อนรับลูกค้าเข้าใช้บริการที่ร้านก็คือการ “ทดลองความพร้อมก่อนเปิดขาย”
การทดสอบความพร้อมก่อนเปิดขายจริงนั้น จะต้องทำทุกอย่างเหมือนเปิดร้านจริง ๆ เพียงแต่จะเปลี่ยนจากลูกค้าจริง เป็นการเชิญคนรู้จัก เช่น เพื่อน ญาติ เข้ามาใช้บริการ ในช่วงเวลาหนึ่งจำนวนกลุ่มลูกค้ารับเชิญนี้ควรอยู่ที่ประมาณ 30-50% ของจำนวนที่นั่งทั้งหมดเพื่อจะได้ตรวจสอบระบบต่าง ๆ ภายในร้านว่ามีอะไรที่ยังไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่ตั้งไว้บ้างมีอะไรที่จะต้องปรับปรุง พัฒนา หรือเปลี่ยนแปลงเพื่อให้การบริการไม่สะดุด
ซึ่งสิ่งที่จะต้องเช็คในช่วงทดสอบนั้นได้แก่
- รสชาติอาหาร, หน้าตาอาหาร ปริมาณอาหาร เป็นไปตามมาตรฐานของร้านหรือไม่
- ความรวดเร็วในการทำอาหาร อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมหรือไม่
- การทำงานของพนักงานส่วนบริการในแต่ละตำแหน่ง ทำได้ถูกต้องตามที่วางไว้หรือไม่
- ในขั้นตอนการบริการที่วางไว้ก่อนทดสอบระบบ เมื่อทดสอบแล้ว มีอะไรที่จะต้องปรับเปลี่ยน เพื่อทำให้ดีขึ้นหรือไม่
- พนักงานแต่ละคนทำงานได้เป็นอย่างไร คนไหนดีให้ชมเชย คนไหนยังทำได้ไม่ดีนัก ให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุง
- อุปกรณ์ ภาชนะ เพียงพอต่อการใช้งานจริงหรือไม่
- หากเป็นร้านที่มีการใช้แอร์ หลังจากที่แขกพิเศษเข้าร้านมาพร้อม ๆ กัน ความเย็นภายในร้านยังอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมหรือไม่
- ระบบ POS ในการส่งออเดอร์เข้าครัวใช้งานได้ตามปกติดีหรือไม่ข้อนี้บางคนอาจสงสัยว่าทำไมต้องเช็ค ก็เพราะว่าหลาย ๆ ร้านอาหารในช่วงเปิดร้านแรก ๆ มักมีปัญหาเกี่ยวกับระบบ POS นั่นเอง จะได้แจ้งทางผู้ให้บริการมาแก้ไขปรับระบบให้เข้าที่
- ทดสอบระบบอุปกรณ์ในครัว ระบบแก๊ส ระบบน้ำ ทำงานเป็นปกติหรือไม่
- ทดสอบระบบแสง ระบบเสียงเป็นไปตามที่ต้องการหรือไม่
นอกจากสิ่งที่เราจะต้องตรวจสอบเองแล้วนั้นสิ่งที่ยังจะต้องทำอีกก็คือ ทำแบบสอบถามแขกรับเชิญที่มาใช้บริการทุกคนว่า อาหารวันนี้ที่สั่ง ชอบเมนูอะไร ไม่ชอบเมนูอะไร เพราะเหตุใด บรรยากาศร้าน และการบริการ เป็นอย่างไรบ้าง เพื่อจะได้นำความเห็นของคนต่าง ๆ มาวิเคราะห์และพัฒนาปรับปรุงต่อไป
เมื่อทำการทดสอบระบบเสร็จเรียบร้อยแล้วให้นำข้อมูลต่าง ๆ ที่สังเกตุและรวบรวมได้มาแก้ไขปรับปรุงต่อไป ซึ่งหากมีข้อที่ต้องแก้ไขปรับปรุงเยอะ ข้อแนะคือให้ทำการทดลองความพร้อมก่อนเปิดขายครั้งที่ 2 ก่อนที่จะเปิดขายจริงเพื่อให้มั่นใจว่าปัญหาต่าง ๆ ได้ถูกแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นเอง
การทดลองเปิดร้านเป็นคนละอย่างกับการเปิดร้านแบบซอฟโอเพนนิ่ง (Soft opening) แม้การเปิดร้านแบบซอฟโอเพนนิ่งจะเป็นการเปิดร้านแบบไม่เป็นทางการ เป็นการทดสอบระบบต่าง ๆ แต่จะเป็นการเปิดรับลูกค้าทั่วไปตามวันและเวลาทำการปกติของร้านทุกอย่างคือการเปิดร้านจริง ๆ แต่อาจยังมีบางจุดที่ยังไม่ลงตัว
เช่น เล่มเมนู อาจยังมีรายการเมนูขยับเปลี่ยนแปลงได้อยู่ หรือก็คือเป็นการเปิดร้านจริงเพียงแต่เป็นการแจ้งให้ลูกค้ารับทราบว่า ช่วงเวลาซอฟโอเพนนิ่งนี้ด้วยความใหม่ของร้านอาจมีสิ่งผิดพลาดเกิดขึ้นได้บ้าง แต่ก็ควรเป็นความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อยเท่านั้น
คลิกอ่านบทความที่มือใหม่เปิดร้านอาหารควรรู้!